ด้วยภาระกิจมากมายทั้งงานหลวงงานราษฎร์ทำให้ผมมาอัพบล็อกช้าไปหน่อยต้องขอ อภัยด้วยครับ มาอ่านบล็อกคนอื่นแล้วก็ฝากข่าวไว้ จึงต้องรีบมานำเสนองานเพราะวันพรุ่งนี้งานจะเริ่มแล้วครับ เริ่มแรกก็ขอตัดเอาคำพูดในงานวันแถลงข่าวจัดงานมาให้ชมเลยครับ..
“ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 10.30 น. ณ สวนสมเด็จศรีนครินทร์ศรีสะเกษ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยนายไมตรี อินทุสุต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นางกัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานชมรมการท่องเที่ยวภาค 4 และนางธมลวรรณ เรืองขจร ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 จังหวัดอุบลราชธานี ได้ร่วมแถลงข่าวงานร่มลำดวนร่มธรรมตามรอยพระยุคลบาท เทศกาลงานดอกลำดวนบานสืบสานสี่เผ่าไทย ประจำปี 2550 โดยมีสื่อมวลชนจังหวัดศรีสะเกษเข้ารับฟังเป็นจำนวนมาก ซึ่งการจัดงานในปีนี้ จังหวัดศรีสะเกษจัดขึ้นยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา การจัดแสดงและสาธิตกิจกรรมเศรษฐกิจแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำริ การ สาธิตและจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองสี่เผ่าไทยศรีสะเกษ กิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ ในด้านคุณธรรม ศิลปกรรม และวัฒนธรรมพื้นเมือง การจำหน่ายกล้าไม้ลำดวนและพันธุ์ไม้มงคลนานาชนิด การสาธิตและจำหน่ายหัตถกรรมพื้นเมืองศรีสะเกษ การแถลงข่าวในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ และเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงและสินค้าหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลจังหวัดศรีสะเกษด้วย ”
แล้วก็ตามด้วยเรื่องราวสั้นๆของงานในปีที่ผ่านมา โดยทุกปีจะมีการแสดงแสง สี เสียง ศิวะราตรีศรีพฤเทศวร ซึ่งปีนี้ได้งดจัดการแสดงแสงสีเสียงนี้ไป เพื่อแสดงการไว้อาลัยแด่พระพี่นางฯ เพื่อไม่ให้ลืมกันเลยนำภาพเรื่องราวงานแสง สี เสียง ที่เคยจัดแสดงกันมาให้ชมครับ
“ การแสดงแสง สี เสียง ศิวะราตรีศรีพฤทเธศวร " (ประจำปีพ.ศ.2550 )
(เรื่องราวในการแสดง)...จาก ตำนานในการสร้างเมือง ศรีสะเกษ ที่ได้มีปรากฏอยู่ในจารึกที่บนเขาพระวิหารเกี่ยวกับการสร้างศาสนสถาน ปราสาทสระกำแพงใหญ่ (กัมรเตงชคต ศรีพฤทเธศวร) นั้น ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 แผ่ พระราชอำนาจเข้าไปในอาณาจักรต่าง ๆ อย่างกว้างขวางมีการสร้างปราสาทและเทวาลัยตามความเชื่อของลัทธิเทวราชา เพื่อถวายเป็นทิพย์ วิมานของเทพเจ้าบนโลกมนุษย์และเพื่อเป็นสุสานของกษัตริย์ขอมยามเสด็จสวรรคต และสำหรับเรื่องย่อของศรีพฤทเธศวรนั้น ศรีสุกรรมากำเสตงงิได้รับพระราชทานเมืองวิเภทะจากพระบาทกมรเตงกันดวนอัญศรี สุริยวรมันเทวะ (พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1) เมื่อปีมหาศักราช 959 หรือ พ.ศ. 1580 พร้อม กับพระราชทานชื่อเมืองให้ใหม่ว่า กุรุเกษตร ซึ่งศรีสุกรรมากำเสตงงิมีมเหสีนามว่า พระนางศรีเทวี และมีบุตรีวัยรุ่นแรกแย้มนามว่า ไตรภัทระ (นางสาวภัทระ)
ซึ่งเมื่อครองเมืองกุรุเกษตรแล้ว คราวหนึ่งได้ออกตรวจราชการและเที่ยวป่าเดินทางมาถึงเมืองสดุกอำพึล เมืองในอาณาเขตปกครอง ตั้งค่ายพักแรมข้างสระน้ำ จึงได้พบว่าน้ำในสระนั้นเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้ผู้อาบกินมีสุขภาพพลานามัยดี เวลานั้นได้รับข่าวว่า พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ให้ เข้าเฝ้าจึงไปเข้าเฝ้าพร้อมกับนำไตรภัทรบุตรีไปด้วย ก็รู้สึกแปลกพระทัยจึงตรัสสั่งให้สร้างเทวาลัย โดยให้พราหมณ์คณาจารย์ทำพิธีอัญเชิญมหาเทพ (พระศิวะ) มาสถิตย์ ณ ที่นั้น เพื่อให้ชาวเมืองสักการะบูชา บวงสรวงและให้ ไตรภัทระ เป็นพระเทวีศรีกุรุเกษตร เพื่อเป็นพิธีกรรมบวงสรวง ศรีพฤทเธศวร เทวรูปแห่ง กัมรเตงชคต ศรีพฤทเธศวร หรือ ปราสาท สระกำแพงใหญ่ ซึ่งปัจจุบันนี้อยู่ที่วัดสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดรีสะเกษ